วันพุธที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2555

รอยคล้ำใต้ดวงตา เอาอยู่คะ

- 0 ความคิดเห็น

สวัสดีคะ วันนี้ widemagazine มีเคล็ดลับดีๆเกี่ยวกับการดูแลผิวสวยๆ รอบดวงตามาฝากกันคะ โดยเฉพาะสาวๆที่ชอบนอนดึก พอตื่นเช้ามาก็เป็นหมีแพนด้าละก็พลาดไม่ได้เลยละคะ

วิธีรักษารอยคล้ำใต้ตา
1. มันฝรั่ง หากว่าคุณเป็นคนหนึ่งที่มักจะมีรอยคล้ำใต้ดวงตา ก็มีวิธีง่ายๆโดยการหั่นมันฝรั่งเป็นแบ่นบางพอประมาณวางทับไว้บนดวงตาทั้งสองข้างนะคะ ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที จะช่วยลดความหมองคล้ำใต้ดวงต้าได้ชั่วคราวคะ เพราะมันฝรั่งมีเอนไซม์ที่ช่วยทำให้ผิวหนังอ่อนตัวลงได้ สำหรับวิธีนี้ก็สามารถที่จะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีทีเดียว แต่ไม่เหมาะที่จะใช้เป็นการรักษาจริงๆจังๆนะคะ
2. แช่ถุงชาเขียว  ชงในน้ำร้อนผสมน้ำตาล นมข้น ตีให้เข้ากันอร่อยที่สุดเลย ไม่ใช่แล้วละคะ ดึกแล้วชักจะหิว เข้าเรื่องกันดีกว่าคะ แช่ถุงชาเขียวในน้ำเย็นเจี๊ยบ จากนั้นนำมาวางประคบไว้บนบริเวณดวงตาสัก 2- 3 นาที เพียงเท่านนี้หมีแพนด้าก็จะหายไปในพริบตาแล้วละคะ ที่สำคัญช่วยลดอาการตาบวมได้อีกด้วยนะคะ แต่ยังไงก็เน้นความสะอาดด้วยนะคะ ไม่ควรเอาถุงชาที่เราแช่กินทุกวันมาใช้นะคะ อันนี้ไม่ดีคะ
3. การใช้ผ้าขนหนูสะอาดๆ ชุบนมแบบไม่พร่องมันเนยเย็นเจี๊ยบ บิดพอหมาด คลุมบนใบหน้าสัก 20 นาที ระหว่างนี้เราจะรู้สึกได้ถึงความผ่อนคลาย สะบายอารมณ์สุดๆเลยละคะ เสร็จแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น นมเย็นจะช่วยต้านการเกิดรอยแดง ในขณะที่กรดแลกติกในนมจะช่วยขัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วพร้อมตรึงความชุ่มชื้นไว้ในผิว 
4. แตงกวา เตรียมแตงกวา หรือมะเขือเทศ ที่ฝานบาง ๆ แช่ตู้เย็นไว้ มาประคบที่ตาประมาณ 10 นาที จะช่วยลดการบวมและลดรอยคล้ำใต้ตาได้ จากการหดตัวของเส้นเลือดได้คะ 

ส่วนประกอบของแตงกวานั้น กว่าร้อยละ 90 ประกอบด้วยน้ำ ประโยชน์ที่ได้จากการใช้แตงกวาประคบดวงตาก็คือ ได้ความเย็นและความชุ่มชื่น ซึ่งอาจทำให้อาการตาบวมลดลงได้บ้าง  แทนที่จะใช้แตงกวา ถ้าหันมาใช้ผ้าขนหนูสะอาดชุบน้ำเย็นแล้วประคบหน้า ก็คงได้ผลไม่ต่างกันสักเท่าไหรหรอกคะ  ส่วนที่คิดกันว่าวิตามินในแตงกวาจะซึมซาบลงมาหล่อเลี้ยงผิวหนังได้ ทำให้ผิวพรรณสดใสขึ้น ข้อนี้ไม่จริงนะคะ
เป็นไงกันบ้างคะกับ 4 วิธีง่ายๆ แถมประหยัดทั้งเงินทั้งเวลาแบบนี้ ใครไม่ลองเสียดายแย่เลยนะคะเนี้ย ที่สำคัญควรเน้นความสะอาดเป็นอันดับแรกนะคะ เดี๋ยวโดนเชื้อโรค ทำตาอักเสบไม่รู้ด้วยนะคะ 

ที่มา www.widemagazine.com
[Continue reading...]

วันศุกร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2554

นอนไม่หลับกลัวน้ำท่วม

- 0 ความคิดเห็น

มีใครที่เป็นเหมือน widemagazine ไหมคะ ตอนนี้นอนไม่หลับเลยกลัวว่าน้ำจะท่วม กลัวเอารถหนีน้ำไม่ทัน ก็เลยนั่งหาข้อมูลมาฝากเพื่อนๆที่นอนดึกกันคะ

โดย : noona
หลักจากที่วันนี้มีข่าวกระแสน้ำท่วมทั้งวัน ทำให้เกิดความกังวัลใจไม่เป็นอันทำการทำงานพอกลับถึงบ้านก็ยังนอนไม่หลับอยู่ดีเป็นห่วงกลัวน้ำจะท่วม ทั้งๆที่ถ้าน้ำท่วมจริงๆก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี จริงไหมคะ
กระแสข่าวทั้งวันก็มีข่าวประมาณว่าจุดนั้นท่วมแล้ว จุดนี้กำลังจะท่วม คันกั้นน้ำแตกบ้างหละ เสร็จก็จะมีผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ และนักการเมืองออกมาปราศัยว่า เราควบคุมสถานการณ์ได้ กรุงเทพฯน้ำไม่ทวม(ก่อนจะท่วมจังหวัดอื่นๆ ผู้ว่าจังหวัดนั้นๆก็พูดแบบนี้แหละ) widemagazine ก็เลยไปเจอข้อมูลที่ได้จาก google map ประเมินสถานการณ์ให้ดังรูปคะ(หรือคลิกลิงค์ใต้รูปภาพได้นะคะ)
บริเวณสีแดง : คือบริเวณที่น้ำจะท่วมแน่นอนคะ ก็จะเป็นพื้นที่กรุงเทพนรอบนอก
บริเวณสีส้ม : ความเสียงที่จะถูกน้ำท่วมสูง บริเวณรอบคันกั้นน้ำคะ
บริเวณสีเหลือง : มีความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมคะ
โดยในหน้าลิงค์ใต้รูปภาพก็จะมีการแจ้งบริเวณที่ถูกน้ำท่วมแล้ว สถานที่จอดรถ และอื่นๆอีกหลายอย่างคะ widemagazine เห็นว่าอาจจะพอมีประโยชน์บ้าง ก็เลยเอามาฝากกันคะ
จากการสังเกตตามสถานที่ต่างๆมีการเตรียมกระสอบทรายในปริมาณมาก(ทั้งๆที่ผู้ว่าบอกว่าไม่ท่วม) จริงๆแล้วก็อยากเชื่อผู้ว่าราชการกรุงเทพฯเหมือนกันคะแต่แหมเห็นเขาเตรียมตัวกันขนาดนั้นจะให้เฉยอยู่ได้ไงจริงไหมคะ
สถานที่ฝากรถ ที่เคยเป็นข่าวว่ามีผู้ประกอบการแจ้งว่าสามารถไปจอดรถได้ฟรีนั้นเป็นจริงเพียงไม่ถึง 10% ที่ฝากฟรีจริง นอกจากนั้นพนักงานก็จะบอกว่า จอดฟรีเฉพาะชั้นใต้ดิน(จอดที่บ้านดีกว่า) หรือไม่ก็เสียตังค์คะ ล่าสุดที่ อาคารฟอร์จูน พระราม9 ให้ใบราคามาเลยคะ ถ้าจอดทั้งวัน ก็ 350 บาทคะ แหมไหนข่าวบอกจอดฟรี

ที่มา : นิตยสารออนไลน์
[Continue reading...]
- 0 ความคิดเห็น
เคยได้ยินมาว่าลูกพรุนมีประโยชน์มาก แต่ไม่ค่อยจะรู้เลยว่ามันมีประโยชน์อะไรบ้าง วันนีก็เลยไปหาข้อมูลมาฝากกันคะเผื่อจะมีประโยชน์กับเพื่อนๆคะ

สรรพคุณ / ประโยชน์ของลูกพรุน

- ในลูกพรุนจะประกอบไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายดังนี้ เหล็ก (Iron) เป็นส่วนประกอบที่ใช้ในการสังเคราะห์ฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดงซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่าผู้หญิงเรานั้นในแต่ละเดือนต้องสูญเสียเลือดประจำเดือนไปเท่าไร ธาตุเหล็กจึงมีความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ ที่ขาดไม่ได้ ใครอยากมีเลือดฝาดอย่ามองข้ามลูกพรุน

- วิตามิน B2 (Riboflavin) ช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง กระบวนการสร้างช่วยในการเจริญเติบโตของเซลล์ โดยเฉพาะกับผิวหนัง เล็บและผม

แคลเซียม (Calcium) ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟัน รักษาระดับการเต้นของหัวใจ ช่วยระบบประสาทให้เป็นปกติ

วิตามิน C (Ascorbic Acid) สารต้านอนุมูลอิสระ (Anti-oxidant) เป็นส่วนประกอบพิเศษที่ช่วยป้องกันเซลล์จากการถูกทำลาย เมื่อเซลล์ถูกทำลายโอกาสการเป็นมะเร็งก็มีสูงขึ้น วิตามิน C มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ดังนั้นการที่ลูกพรุนมี Anti-oxidant ในปริมาณสูงจะช่วยทำให้ร่างกายและสมองแก่ตัวช้าลงและมีอัตราการเกิดโรคมะเร็งน้อยลงมีส่วนช่วยในกระบวนการสังเคราะห์เม็ดเลือดแดงช่วยให้ร่างกายต่อต้านแบคทีเรียได้ดียิ่งขึ้น

วิตามิน E เป็น Anti-oxidant ช่วยป้องกันการเกิดปฏิกิริยาของออกซิเจนที่ไม่สมบูรณ์ภายในร่างกาย ช่วยการไหลเวียนของโลหิต ช่วยยืดอายุของเม็ดเลือดแดงทำให้ผิวพรรณเนียนนุ่มชุ่มชื่น ไม่เหี่ยวย่นก่อนวัยอันควร

- ลูกพรุนนั้นอุดมไปด้วยกากใยหรือไฟเบอร์สูงมาก มีคุณสมบัติเป็นยาระบาย บรรเทาอาการท้องผูกได้อย่างปลอดภัยทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เป็นประโยชน์ทำให้ขับถ่ายได้คล่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งชีวิตปัจจุบันที่ฝากไว้กับอาหารถุง ซึ่งแทบจะไม่มีอะไรที่เป็นกากใยเลย ลูกพรุนเป็นคำตอบที่ไม่น่ามองข้ามนะคะ


สูตรน้ำลูกพรุนแบบง่ายๆ

ส่วนผสม

- ลูกพรุนแห้ง 2 ผล
- น้ำตาลทราย พอสมควร
- เกลือป่น เล็กน้อย
- น้ำสะอาด 2 ลิตร
- น้ำแข็งทุบ พอสมควร


วิธีทำ

1. นำลูกพรุนแห้งและน้ำตั้งไฟปานกลางจนเดือดสักครู่น้ำจะเป็นสีน้ำตาลอ่อน
2. ใส่น้ำตาลทรายและเกลือป่นเล็กน้อยชิมอย่าให้รสหวานมากเกินไป ถ้าใส่เกลือให้ใช้เพียงเล็กน้อยประมาณ 1 หยิบมือเท่านั้น (เพราะปกติการต้มน้ำผลไม้ตากแห้งมักไม่ใส่เเกลือ)
3. ยกลงจากเตาทิ้งไว้จนเย็นเวลาดื่มขณะอุ่นรสชาติเหมือนน้ำชาจีน

ไม่น่าเชื่อนะคะผลไม้ลูกเล็กๆดำรดชาตก็งัั้นๆ จะมีประโชยน์มากมายขนาดนี้ แถมยังมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ(ลดโอกาสการเกิดโรคมะเร็ง) ได้อีกด้วย ยังไงก็อย่าลืมหามาติดตู้เย็นไว้นะคะ

ที่มา : นิตยสารออนไลน์
[Continue reading...]

อาหารเหล่านี้ทำให้เกิดกลิ่นปาก

- 0 ความคิดเห็น

รู้ไหมคะว่าอะไรบ้างที่ทำให้เกิดกลิ่นปากที่ไม่พึงประสงค์ ถ้าคิดไม่ออกวันนี้ widemagazine มีข้อมูลมาฝากกันคะ เผื่อเวลามีนัดสำคัญก็เลี่ยงๆอาหารเหล่านี้บ้างก็ดีคะ

เชื่อว่าหลายๆคนคุ้นเคยกับอาหารเหล่านี้เป็นอย่างดีจริงไหมคะ แต่บางครั้งอาจไม่ได้สังเกตุว่ามันทำให้เรามีกลิ่นปากได้คะ และที่สำคัญเวลาที่เรามีกลิ่นปากเนี้ยจะทำให้เราขาดความมั่นใจไปซะหมด และถ้าเราขาดความมั่นใจแล้วรับรองว่าอะไรอะไรก็ไม่ดีละคะ ไม่ว่าจะคุยกับใครก็ต้องคอยระวัง จะคุยกัยแฟนก็ไม่กล้า(อันนี้สำคัญเลย)  พอเราไม่คุยก็หาว่าเรางอนซะงั้น widemagazine เข้าใจคะวันนี้ก็เลยหาข้อมูลของอาหารที่จะทำให้เรามีกลิ่นปากมาฝากกันคะ

5 อาหารที่ทำให้เกิดกลิ่นปาก

1. ทุเรียน

ทุเรียน
ทุเรียนอาจเป็นผลไม้ชนิดเดียวในโลกที่มีคนรักมากพอๆ กับคนที่เกลียดชังมันเข้าไส้ หากคุณอยู่ในกลุ่มแรกคุณอาจเข้าใจความอร่อยของ "ราชาผลไม้" ได้ไม่ยาก แต่สำหรับคนเกลียดทุเรียนแล้วกลิ่นอันร้ายกาจของมันอาจทำให้คุณต้องส่ายหน้าหนี ในโลกเราก็มีสถานที่หลายแห่งที่ห้ามนำทุเรียนเข้ากันเลยทีเดียว มาพูดถึงกลิ่นผลไม้หนามแหลมชนิดนี้ประกอบไปด้วยสารระเหยถึง 39 ชนิด รวมถึงซัลเฟอร์ต่างๆ ที่อาจเป็นตัวการกลิ่นตุๆ หากคุณกินทุเรียนเพียงหนึ่งเม็ดอาจมีกลิ่นปากได้เป็นชั่วโมง อย่างไรก็ตามในขณะนี้ ดร. ทรงพล สมศรี จากสถาบันวิจัยพืชสวนก็พยายามเพาะพันธุ์ทุเรียนที่ไม่มีกลิ่นอยู่เพื่อต้านกระแสเกลียดทุเรียน


2. หน่อไม้ฝรั่ง

หน่อไม้ฝรั่ง
อาหารบางชนิดทำให้กลิ่นปากของเราตุๆ บางชนิดส่งกลิ่นออกมาผ่านรูขุมขนของเรา ส่วนหน่อไม้ฝรั่งนั้นเป็นอีกจำพวกที่ทำให้ปัสสาวะมีกลิ่นคล้ายๆ กับกระหล่ำปลีเน่า ความจริงก็คือ ปรากฎการณ์หน่อไม้ฝรั่งสร้างกลิ่นยังคงเป็นปริศนาสำหรับนักวิทยาศาสตร์แม้จะมีสารต้องสงสัยอาทิ S-Methyl, Thioesters และ Methanethiol แต่การระบุให้แน่ชัดเลยก็ยังเป็นเรื่องยากอยู่ อย่างไรก็ดีสิ่งหนึ่งที่นักวิทยาศาสตร์สรุปได้ก็คือไม่มีใครมีภูมิคุ้มกันทุกคนเป็นเหมือนกันหมด คนทั่วไปร้อยละ 60-80 อาจกินหน่อไม้ฝรั่งแต่ไม่เคยได้กลิ่นดังกล่าว แต่กลิ่นนั้นมีอยู่จริงๆ คุณแค่ไม่มีประสาทรับรู้มันต่างหาก


3. กระเทียม

กระเทียม
ขอบคุณฮอลลีวูดและหนังแวมไพร์ที่ทำให้เรารู้ว่ากระเทียมช่วยขับไล่แดร็คคูล่าได้ จะอย่างไรก็เถอะไม่มีกลิ่นอะไรจะติดหนึบได้เท่ากลิ่นกระเทียมอีกแล้ว หากอ้างอิงจาก Mayo Clinic กลิ่นกระเทียมสามารถติดอยูู่ในลมหายใจได้นานถึง 72 ชั่วโมง นี่เป็นเพราะในกระเทียมมีซัลเฟอร์ชื่อ Allicin ซึ่งทำให้กระเทียมมีกลิ่นรุนแรงกว่าลูกอมหรือหมากฝรั่งดับกลิ่นปากทุกชนิด เมื่อ Allicin สลายตัวในกระเพาะมันจะปล่อยไอระเหยที่มีกลิ่นชวนนึกถึงน้ำพริกถ้วยที่แล้วไอเหล่านี้จะเข้าสู่กระแสเลือดแล้วไปที่ปอดก่อนจะออกสู่โลกภายนอกกับลมหายใจ อย่างไรก็ตามแม้กระเทียมจะไม่ใช่อาหารที่ควรกินในเดตแรกมันก็ดีต่อสุขภาพของคุณมากๆ เคยมีการศึกษาพบว่ากระเทียมสามารถกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ดังนั้น มันจึงลดความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจด้วย


4. แอลกอฮอล์

แอลกอฮอล์
กลิ่นปากจะรุนแรงมากขึ้นเท่ากับจำนวนแก้วที่ดื่ม แก้วแรกหรือแก้วที่สองอาจไม่ส่งกลิ่น แต่ยิ่งจำนวนแก้วเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แอลกอฮอล์ในกระแสเลือดและในลมหายใจก็จะทวีความรุนแรงขึ้นเช่นกัน โดยแอลกอฮอล์จะผ่านกระแสเลือดไปสู่ปอดทำให้เครื่องวัดปริมาณแอลกฮอล์และจมูกคนข้างๆ ได้กลิ่น ซึ่งไม่ว่าจะเป็นอะไรไม่สามารถกลบกลิ่นของมันออกไปได้นอกจากเวลา นอกจากนี้ มันอาจมีสาเหตุอื่นๆ
- การดื่มแอลกอฮอล์ทำให้ร่างกายขาดน้ำ ซึ่งเป็นภาวะที่เหมาะที่สุดให้แบคทีเรียต้นตอของกลิ่นปากได้เจริญเติบโต
- โมเลกุลของแอลกอฮอล์จะไปจับตัวกับแบคทีเรียที่อยู่ตามเหงือกและฟันทำให้แหล่งกลิ่นปากย่ำแย่ลงไปอีก


5. หัวหอม

หัวหอม
หัวหอมไม่ได้หอมสมชื่อเมื่อมันอยู่ในท้องเรามันดีต่อสุขภาพเช่นเดียวกับกระเทียมมีทั้งใยอาหารและซัลเฟอร์ที่มีประโยชน์ เชื่อกันว่ามันช่วยลดคอเลสเตอรอล กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และอาจป้องกันคุณจากโรคมะเร็งได้ด้วยซ้ำส่วนข้อเสียก็อย่างที่รู้กันอยู่ หัวหอมมีชื่อเสียงด้านกลิ่นปากที่ไม่จางหายเนื่องจากมันมีซัลเฟอร์ที่ระเหยทันทีเมื่อมันสัมผัสกับอากาศ มันจะเข้าสู่กระแสเลือดและออกมาทางปอด (อีกแล้ว) การแปรงฟันหรือลูกอมดับกลิ่นปากอาจช่วยกลบกลิ่นบ้างแต่ไม่สามารถขจัดกลิ่นได้ราบคาบ ข่าวดีก็คือการนำหัวหอมไปทำอาหารผ่านความร้อนอาจช่วยสลายสารที่เป็นสาเหตุของกลิ่นปาก นอกจากนี้หัวหอมที่ปลูกในดินที่มีกำมะถันน้อยกว่าก็จะมีสารจำพวกดังกล่าวน้อยกว่าด้วย (แถมยังรสชาติหวานกว่าด้วยนะ)


Tip : กลิ่นกาแฟ เข้าใจผิด เข้าใจใหม่

หากมีคนบอกว่ากลิ่นปากของคุณเหมือนกลิ่นกาแฟคุณอาจไม่คิดนั่นเป็นคำชม แต่จริงๆ แล้วมันเป็นเรื่องดีนะเพราะนักวิจัยจาก Tel Aviv University พบว่ากาแฟสามารถหยุดยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุของกลิ่นปากได้
เป็นไงกันบ้างคะแค่นี้ก็ช่วยให้เราไม่พลาดโอกาสสำคัญๆในชีวิตแล้วละคะ แค่ระวังการกินอาหารเหล่านี้สักหน่อย อดไว้มากินที่บ้านหรือวันว่างๆของเราดีกว่าคะ ยิ่งเราเป็นผู้หญิงด้วยแล้วต้องระวังให้มากคะ พลาดไม่ได้เด็ดขาดเลยจริงไหมคะ

บทความที่เกี่ยวข้อง
หยุดกลิ่นปากพาเสีย Self (ยามท้อง)


[Continue reading...]
 
Copyright © . miss wide - Posts · Comments
Theme Template by BTDesigner · Powered by Blogger